AI ผู้ช่วย “ผู้นำแห่งอนาคต”

ถ้าคุณต้องแข่งขันกับผู้นำที่มี AI เป็นผู้ช่วยส่วนตัว 
คุณยังกล้าพอที่จะตัดสินใจแบบเดิมไหม?

ในโลกธุรกิจที่มีปัจจัยแห่งการเปลี่ยนภูมิทัศน์การดำเนินธุรกิจและการแข่งขันที่มากมายรอบด้าน โดยมีหนึ่งสิ่งที่เข้ามามีบทบาทเขย่าเศรษฐกิจและสังคมทุกวันนี้ให้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง คือ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence)

AI ในความเข้าใจของผู้คนจำนวนมาก คือ เทคโนโลยีที่ซับซ้อน และเชื่อว่าจะเป็นภัยคุกคามต่อการจ้างงานในอุตสาหกรรมที่ไม่ต้องการทักษะเชิงสร้างสรรค์ของมนุษย์มากนัก แต่สำหรับผู้นำ ผู้ประกอบการ และนักบริหารที่มีวิสัยทัศน์ จะทราบดีว่าพัฒนาการของ AI ในทุก ๆ วัน คือ โอกาสในการพลิกโลกการบริหารธุรกิจและองค์กรให้ก้าวล้ำหน้าความต้องการของลูกค้า และสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งขันในธุรกิจหรือตลาด

ผู้นำต้องรู้!

AI จะเปลี่ยนการบริหารธุรกิจของคุณไปตลอดกาลได้อย่างไร?”

AI ผู้ช่วย “ผู้นำแห่งอนาคต”

 

แม้ว่าในหลายวาระที่ Fast Mini MBA จะได้เคยกล่าวถึง AI ในมิติการบริหารธุรกิจ และการตลาดมาอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะไม่เพียงพอต่อการสร้างความเข้าใจเชิงลึกถึงบทบาทของ AI กับการบริหารธุรกิจและองค์กร และแนวทางประยุกต์หรือปรับให้ AI มาเป็นผู้ช่วยเตรียมความพร้อมต่อคลื่นความเปลี่ยนแปลงที่รอโถมใส่เราทุกวัน

AI คืออะไร? และทำไม? ผู้นำแห่งอนาคตต้องสนใจ

AI ไม่ได้หมายถึง Computer เครื่องจักร หรือหุ่นยนต์ที่คิดเองได้ แต่หมายถึง ระบบที่สามารถเรียนรู้ ทำความเข้าใจ ปรับตัว คิด วิเคราะห์ และตัดสินใจได้ด้วยตัวเองอย่างชาญฉลาด โดยอาศัยข้อมูลจำนวนมหาศาล (Big Data) เป็นแหล่งพลังทางปัญญา

บทบาทของ AI ต่อธุรกิจยุค Digital Transformation

เราสามารถนิยามบทบาท หรือความสำคัญของ AI ต่อการบริหารธุรกิจและองค์กร ในยุค Digital ได้โดยสรุป คือ

AI กับการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน เพราะในหลายธุรกิจและอุตสาหกรรมสามารถประยุกต์ใช้ AI กับระบบงานที่มีความซ้ำซาก หรืองานที่ต้องใช้การคำนวณที่ซ้ำซ้อนแทนมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมีความเร็ว แม่นยำ ลดความผิดพลาด และประหยัดทรัพยากรการทำงานได้มาก

AI สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เพราะ AI สามารถคิด วิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจและการตลาดได้ทั้งในเชิงลึกและกว้างอย่างรอบด้าน นำมาซึ่งการตัดสินใจของผู้นำ ผู้ประกอบการ และนักบริหารที่มีวิสัยทัศน์ได้อย่างเหมาะสม รวดเร็ว ล้ำหน้าหรือทันต่อความเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและการตลาด

AI กับการพัฒนานวัตกรรม (Innovation) พัฒนาและความสามารถของ AI ในปัจจุบัน เป็นบริบทและกลไกสำคัญของการพัฒนานวัตกรรมทางธุรกิจ สู่การสร้างสรรค์สินค้า บริการ และแม้แต่ Business Model ใหม่ ๆ ให้กับโลกแห่งอนาคต

ในยุค Digital Transformation ที่มีเทคโนโลยี AI เป็นกลไกขับเคลื่อน เราสามารถกล่าวได้ว่า หากคุณไม่เริ่มต้นที่จะเปิดใจและนำ AI มาเป็นผู้ช่วยบริหารธุรกิจและองค์กร ในอนาคตอันใกล้ คุณอาจจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังในธุรกิจและตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี

AI กับการเปลี่ยนโลกบริหารธุรกิจ (The Dimensions of Change)

จากบทบาทของ AI ใน 3 มิติข้างต้น ร่วมกับการศึกษา Business Model ยุค Digital จำนวนมาก เราจะพบว่า AI ได้เข้ามามีบทบาทต่อการเปลี่ยนโลกบริหารธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ คือ

  1. การตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Decision Making) จากอดีตที่ทุกการตัดสินใจจะอ้างอิงจากประสบการณ์ สัญชาติญาณ และด้วยขนาดข้อมูลจำนวนจำกัด แต่ปัจจุบันเราสามารถประยุกต์ให้ AIเข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจและการตลาดจำนวนมาก (Big Data) ให้เราทราบถึงรูปแบบ (Patterns) และแนวโน้ม (Predictive Analytics) เช่น ยอดขาย หรือพฤติกรรมลูกค้า และแม้แต่ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดกับธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เช่น การใช้ AI ของ Netflix กับการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ชม เพื่อให้สามารถแนะนำภาพยนตร์หรือ Seriesที่ตรงกับความชอบของผู้ชมแต่ละคน ในลักษณะของการสร้างประสบการณ์ลูกค้าส่วนบุคคล (Personalized Customer Experience) หรือ AI ของ Amazon ที่สามารถปรับราคาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด การแข่งขัน และปริมาณสินค้าใน Stock ได้อย่าง Real-Time เป็นต้น
  2. กระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ (Operational Efficiency)โดยAI และระบบอัตโนมัติ หรือ RPA (Robotic Process Automation) เป็นระบบที่เข้ามาสนับสนุนกระบวนการทำงานที่มีความซ้ำซากแทนมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมีความเร็ว แม่นยำ ลดความผิดพลาด และประหยัดทรัพยากรการทำงานได้อย่างเด่นชัด เช่น การทำงานของ Chatbot ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะสามารถตอบคำถามและให้บริการข้อมูลเบื้องต้นแก่ลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน หรือในบางอุตสาหกรรม ที่นำระบบการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance) ด้วย AI มาประยุกต์ใช้ จึงสามารถควบคุมคุณภาพการผลิตของเครื่องจักร ลดของเสียและเวลาหยุดทำงานของเครื่องจักรเพื่อการบำรุงรักษาได้อย่างมาก เป็นต้น
  3. พัฒนานวัตกรรม และ Business Model(Innovation & Business Models) มีธุรกิจจำนวนมากที่ไม่ได้เพียงแค่ใช้ AI เพื่อปรับปรุงหรือยกระดับธุรกิจเท่านั้น แต่ AI ยังเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการค้นหาโอกาสใหม่ทางธุรกิจ ทั้งการสร้างสรรค์สินค้า บริการ หรือแม้แต่การออกแบบBusiness Models ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่น การเกิดขึ้นของธุรกิจรถยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Car) หรือ Self-driving Cars ที่ครอบคลุมตั้งแต่อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ ถึงบริการขนส่งสาธารณะ และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
  4. การบริหารทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource & Workforce Management)โดยองค์กรจำนวนมาก ได้เริ่มประยุกต์ให้ AI ทำหน้าที่บริหารทรัพยากรมนุษย์ขององค์กร ตั้งแต่การออกแบบรายละเอียดงาน (Job Description) การสรรหาและคัดเลือกจากประวัติ (Resume) ของผู้สมัครจำนวนมาก ให้ได้ผู้สมัครที่เหมาะสมกับลักษณะงาน ทั้งยังทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อออกแบบและแนะนำหลักสูตรพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่เหมาะสมกับบุคลากรแต่ละคน และเป้าหมายหรือกลยุทธ์ขององค์กร เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินงานแก่องค์กรในทุกมิติ

การเตรียมตัวของ ผู้นำแห่งอนาคต” (What Leaders Need to Do)

การเตรียมตัวของผู้นำ ผู้ประกอบการ และนักบริหารที่มีวิสัยทัศน์ สู่การเป็นผู้นำแห่งอนาคต โดยมี AI เป็นผู้ช่วยที่มีความสามารถรอบด้าน จะประกอบด้วยขั้นตอนที่เราสามารถประยุกต์ใช้ คือ

  1. ทำความเข้าใจกับพื้นฐานของ AI และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องโดยไม่จำเป็นต้องรู้และเข้าใจในระดับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เพียงให้รู้และเข้าใจในศักยภาพ ข้อจำกัดของ AIและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์ต่อการกำหนดกลยุทธ์และการตัดสินใจทางธุรกิจและองค์กร
  2. พัฒนา Mindsetให้ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (DataDriven)ด้วยการสร้างและส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่ใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจทุกระดับ ลดและเลิกการใช้สัญชาตญาณ แต่เพิ่มความเชื่อมั่นในข้อมูลเชิงลึกที่ AI สามารถมอบให้ได้
  3. ลงทุนกับการเรียนรู้และพัฒนาบุคลากร (Reskill & Upskill) แน่นอนว่า AIจะเข้ามามีบทบาทในการดำเนินงานบางด้านภายในองค์กร แต่จะไม่สามารถแทนที่ทักษะเชิงสร้างสรรค์ การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการทำงานในเชิงบูรณาการ (Synergy) ดังนั้น เราจึงควรลงทุนกับการพัฒนาตนเองและองค์กรหรือบุคลากรให้ทันความเปลี่ยนแปลง ด้าน AI และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ
  4. ออกแบบนโยบายและจริยธรรม AIเพราะการเปิดโอกาสให้ AIมีบทบาทต่อการบริหารธุรกิจและองค์กร ควรเกิดขึ้นบนความพร้อมรับผิดชอบ (Accountability) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า AI และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง จะถูกนำมาใช้อย่างเหมาะสม เป็นธรรม (Fairness) โปร่งใส่ (Transparency) และที่สำคัญ คือ ไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ทั้งภายในและภายนอกองค์กร
  5. พัฒนาPilot Projectด้วย AI เช่น ธนาคารกสิกรไทย (KBank) ที่ทดลองใช้ AI กับการวิเคราะห์พฤติกรรมการเงินของลูกค้าและให้บริการผ่าน Chatbot บน K PLUS หรือธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ที่พัฒนา AI เพื่อวิเคราะห์ Credit ของผู้ค้า Online ที่ไม่มีประวัติทางการเงินแบบดั้งเดิม รวมถึง Central Retail ที่นำ AI มาช่วยคาดการณ์ความต้องการสินค้า เพื่อออกแบบ Promotion เฉพาะบุคคลผ่านบัตร The1 Card เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้เริ่มจาก Pilot Project ที่เน้นวัดผลและขยายต่อเมื่อเห็นผลลัพธ์จริง ซึ่งเป็นแนวทางที่เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้เช่นกัน
  6. สร้างทีม (Diverse Teams) จากบุคลากรที่มีคุณสมบัติและความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย ทั้งทางด้านเทคโนโลยี การบริหาร การตลาด การเงิน และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้ทีมพบเห็นโอกาส ปัญหาหรืออุปสรรค เช่น ข้อจำกัดของข้อมูลความซับซ้อนของการนำไปประยุกต์ใช้และที่สำคัญ คือ การต่อต้านการเปลี่ยนแปลงจากบุคลากร เพื่อการพัฒนากลยุทธ์นำ AI และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมาขับเคลื่อนธุรกิจและองค์กรในยุค Digital ได้อย่างเหมาะสม

AI ไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่เป็นโอกาสสำหรับผู้นำแห่งอนาคต ที่ต้องการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและองค์กรอย่างชาญฉลาดและมีวัสัยทัศน์ โดยเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจ AI และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง พร้อมไปกับการพัฒนาบุคลากรให้รู้เท่าทันการใข้ AI ให้เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวของแต่ละคน โดยที่เราจะต้องไม่ลืมการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้พร้อมรับมือกับอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

อย่ารอ! จนถึงวันที่โลก หรือคู่แข่ง นำ AI มาเปลี่ยนธุรกิจของคุณ

อย่ากลัว! ที่จะนำ AI เข้ามาเป็นผู้ช่วยการเปลี่ยนผ่านธุรกิจและองค์กรของคุณสู่ยุค Digital

เริ่มต้นเรียนรู้ ศึกษา และนำ AI มาปรับใช้ในฐานะผู้ช่วยส่วนตัวของคุณ และองค์กร เพื่อสร้างความได้เปรียบที่ยั่งยืนแก่ธุรกิจและองค์กรด้วยบทบาทผู้นำแห่งอนาคต … โดย Fast Mini MBA อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่คุณตามหา